top of page

How to choose used car 101

เลือกรถเป็น ไม่เสี่ยงย้อมแมว1

แน่นอนครับ คุณอ่านบทความนี้จบ คุณไม่อาจเป็นเซียนได้ในทันที แต่เชื่อว่า อย่างน้อยคุณจะได้ความรู้และพอจะดูรถมือสองเป็นบ้างในจุดที่สำคัญจริงๆ ไม่มากก็น้อย

ย้อนหลังไปในอดีตราวๆ คศ 2000 รถที่ผมซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงคันแรก คือรถมือสอง ถึงแม้ว่าเราจะชอบและศึกษาเรื่องรถยนต์มาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตามการซื้อรถมือสองไม่เหมือนซื้อรถใหม่แน่นอน และรถที่ผมซื้อนั้น ภายนอก ห้องเครื่อง สี ดูใหม่ ทุกอย่าง และทำให้ผมตกหลุมรักมันทันที เรื่องมันเดาไม่ยากหรอกครับ .....ใช่แล้ว รถคันที่ผมซื้อน่ะ มีปัญหาตามมาภายหลังพอสมควร เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบริเวณใต้ท้องรถ หนักพอควร จึงทำให้เจ้าของเก่า ต้องขายทิ้งไปที่เต้นท์ทันทีและเต้นท์ได้ทำสีและทำความสะอาดทุกอย่างจนดูเหมือนของใหม่ และราคาก็ค่อนข้างสูงเลยเข้าใจว่า ราคาสูงกว่าเต้นท์อื่นน่าจะเป็นรถดีกว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของ ผู้ซื้อที่ โดนรถย้อมแมว ได้อย่างดีทีเดียว

และหลังจากนั้น ......จึงได้มีโอกาสเรียนรู้และทำงานเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถและคัดแยกเกรดรถยนต์ใช้แล้วหรือรถมือสอง และด้วยแรงบันดาลใจข้างต้นบวกด้วยความชอบส่วนตัว บทความนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริง ไม่ใช่อ่านตำราต่างๆแล้วเอามาเขียน ซึ่งบทความนี้เคยเผยแพร่ ในบล็อคของ โอเคเนชั่น มาก่อน ต่อจากนี้ ผมจะแนะนำเฉพาะในสิ่งที่คุณทำได้จริงๆเท่านั้น และเผอิญมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องตรวจสอบก่อนที่จะซื้อรถคันนั้นนะครับ หลังจากที่ท่านเล็งรุ่นและยี่ห้อใดๆ ไว้ในใจแล้ว ไม่สำคัญว่าที่มาของรถจะมาจากไหน จะเป็นรถบ้านประกาศขายเองหรือรถเตนท์ หลักการตรวจสอบเบื้องต้นของการเลือกรถมือสองย่อมเหมือนกัน ผมอยากแบ่งเป็นสามส่วนหลัก ๆ ก่อนคือ 1.Checking of Major Defects ซึ่งได้แก่ ส่วนของโครงสร้างหลักของตัวถัง เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบช่วงล่าง ระบบพวงมาลัย เป็นต้น 2.Checking of Minor Defects ซึ่งได้แก่ อุปกรณ์ต่างในรถ เช่น สวิชต์ต่างๆ ไฟเลี้ยว กระจกไฟฟ้า วิทยุ แอร์เครื่องเสียง กลไกเบาะ มาตรวัดต่างๆ หรือ อาจเป็น สีรถทั้งภายนอกและภายใน ที่อาจชำรุดทรุดโทรมไปเนื่องจากการใช้งาน หรือ เสียหายจากอุบัติเหตุ 3.Contract & Documentation ได้แก่เรื่องราวเกี่ยวกับสัญญาและการตรวจสอบเอกสาร จำนวนเงินและดอกเบี้ยที่ติดไฟแนนซ์อยู่ รวมถึงประกันภัยหากซื้อเงินผ่อน สำหรับบทความนี้จุดประสงค์ของผมต้องการให้คุณตรวจสอบเป็น และทำได้ด้วยตนเอง ถึงแม้ไม่มีความรู้มาก่อน จึงอยากนำเสนอในเฉพาะเรื่อง การดูโครงสร้างตัวถังก่อน ในหมวด Major Defects ที่ผมเน้นโครงสร้างตัวถังก็เพราะ.. หากโครงสร้างตัวถังเสียหาย เมื่อซ่อมแซมแล้ว เป็นไปได้ยากที่จะทำให้ทุกอย่างเที่ยงตรงเหมือนโรงงาน และมีผลต่อเนื่องไปถึงระบบอื่นๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง เกียร์ และอื่นๆ แต่หาก โครงสร้างตัวถังปกติแล้ว ส่วนอื่นๆ หากเกิดความเสียหาย ยังสามารถซ่อมแซมหรือ เปลี่ยน เพื่อให้สภาพกลับมาสมบูรณ์ดังเดิมได เอาล่ะครับ เมื่อคุณตัดสินใจเลือกซื้อรถมือสองแล้ว เริ่มดูเป็นข้อๆ ตามนี้ไปเลยนะครับ คุณควรดูผ่านตาไว้บ้างไม่น้อยกว่า 3-4คัน ถ้ามันเป็นรุ่นและยี่ห้อเดียวกัน คุณอาจจะเห็นสิ่งผิดปกติบ้างแล้วก็เป็นได้ เพราะการเปรียบเทียบจากรุ่นเดียวกันก็เป็นหลักการหนึ่งในการตรวจสอบ เรามาเริ่มกันที่

1 . สังเกตุช่องว่าง(Gap)หรือช่องรอยต่อของตัวถัง

ลองเดินดูรอบๆ ตัวถังรถก่อน ในความเป็นจริงคุณอาจไม่สามารถดูรถในบริเวณพื้นที่ที่กว้างขวาง เพื่อที่จะดูแบบ zoom-in , zoom-out ได้อาจเนื่องด้วยขนาดของพื้นที่ของผู้ขายหรือเป็นความจงใจของผู้ขายที่ไม่อยากให้คุณสังเกตุดูอย่างใกล้ชิดก็เป็นได้กลัวว่าคุณจะเห็นข้อบกพร่องของตัวรถ สมมุติว่าเป็นพื้นที่แคบๆ แล้วกัน อย่างตามเตนท์ทั่วไป ที่รถจอดซ้อนๆกันอยู่เยอะ ดูสีหรือแสงที่สะท้อนอาจดูลำบาก ดูการเปรียบเทียบช่องไฟซ้ายขวาก่อน ช่องไฟหรือช่องว่างระหว่างรอยต่อของเหล็กสองชิ้น

ตามรูป เช่น ฝากระโปรง กับ บังโคลน , ฝากระโปรงกับ กระจังหน้า บังโคลน กับ ประตูหน้า รวมถึงช่องไฟทุกช่อง คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ระยะห่างแค่ไหนถึงปกติ ไม่มีใครรู้หรอกครับผมก็ไม่รู้ เพียงแต่หากเราจะใช้วิธีเปรียบเทียบกัน ด้านซ้ายกับด้านขวา ปกติแล้วช่องว่างหรือช่องไฟ มันจะเท่ากันไม่ว่าจะเป็นประตูหน้า,หลัง หรือ ซ้าย , ขวา

หากแตกต่างกันขนาดมองเห็นได้ชัดนั่นอาจ สันนิษฐานได้ว่า มีการซ่อมแซมใหญ่ พยายามทำให้เข้าที่แต่มันไม่เข้าที่อะไรทำนองนั้น ใช้สายตาประเมินนะครับ ไม่ต้องถึงขนาดพกไม้บรรทัด เดี๋ยวเจ้าของเตนท์หรือพนักงานขายเขาจะค้อนเอา ก็หากจุดนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็ดูจุดต่อไปเลยครับ

2. เล็งสังเกตุดูที่สีและสังเกตุเงาสะท้อนของสี

อันนี้ดูยากหน่อย เพราะแสงในเตนท์รถบางเตนท์ไม่สว่างนักต้องใช้แสงนีออนร่วมด้วย ถ้าแสงสว่างธรรมชาติเข้ามามากๆ การดูเงาสะท้อนหรือการตกกระทบของแสง จะสังเกตุได้ดีกว่า แต่เอาเถอะหากแสงนีออนก็ไม่เป็นไร ดูเท่าที่ดูได้ ดีกว่า คุณดูเงาสะท้อนในสีรถหากบางจุดเรียบ บางจุดดูคล้ายเป็นลอนคลื่น แต่หาก ช่างซ่อมมาดี คุณอาจสังเกตุไม่เห็นก็ได้ หากไม่มีประสบการณ์มากพอ แต่เราใช้เกณฑ์วัดจากสายตาคุณ ไม่ใช่สายตาของผู้มีประสบการณ์สูง หากรอดพ้นสายตาคุณ ก็อาจเป็นได้ว่า ไม่มีการซ่อมแซมหรือซ่อมแซมมาดีจน ไม่มีปัญหาใดๆ ก็ได้ เอาล่ะครับลองไล่ดูตั้งแต่ แนวบังโคลน ประตู และส่วนท้ายของรถดู คร่าว การสะท้อนของเงาและสีเป็นอย่างไร คุณอาจไม่รู้ว่ามาตรฐานมันเป็นอย่างไร เอาอะไรมาอ้างอิง ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น สังเกตุดู การสะท้อน ดังรูป

เปรียบเทียบกันระหว่าง พื้นที่ต้องสงสัย เปรียบเทียบกับพื้นที่ข้างๆ ครับ คุณต้องไล่ดูรอบๆคันช้าๆ เที่ยวแรกไม่เห็นไม่เป็นไร เดินอีกเที่ยว การค่อยๆดูทำให้คุณต้องโฟกัส สายตาและสมาธิไปกับตัวถังรถ ไล่ๆไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว ทำให้คุณเห็นความผิดปกติ (หากมี) ได้โดยอัตโนมัติ…. ส่วนของตัวถัง ส่วนที่เป็นโค้งมนน่ะครับเวลาเคาะหรือซ่อม ถ้าทำไม่ดี มันจะเห็นความแตกต่างเล็กน้อยถ้าสังเกตดีๆ ต้องใช้หลักการสะท้อนเงาช่วยดูด้วย แต่ถ้าไม่เห็นความผิดปกติใดๆ เลย ก็อาจเป็นไปได้ว่า ซ่อมมาอย่างดี หรือ ไม่เคยเกิดการเฉี่ยวชนมาก่อน ในเรื่องของ สีตัวรถนั้น ผมอาจจัดให้อยู่ในหมวด Minor defect check ก็ได้ เอาล่ะครับหากเห็นสิ่งผิดปกติเล็กน้อย ก็ไม่เป็นไร คุณทำตามผมเป็นข้อๆ ไปก่อน เดี่ยวเราค่อยมาสรุปกันภายหลัง 3. สังเกตุที่สันเหลี่ยม( Ridge & Line )ของตัวรถ หากรถคันที่ท่านต้องการมีสันเหลี่ยม หรือ สันด้านข้างยอดนิยม อย่างเช่น BMW หรืออีกหลายยี่ห้อก็นิยมมีสันแนวด้านข้าง ไล่สายตาสังเกตุดู เทียบด้านซ้ายกับด้านขวา น่ะครับ สันเหลี่ยมของรถคันเดียวกันซ้ายขวา ต้องมีความคมชัดที่เท่ากันทั้งสองด้าน ไล่ดูตั้งแต่บังโคลนหน้า ผ่านประตู ไปจนถึงส่วนท้าย

และอย่าลืมมอง แนวสันบนฝากระโปรงหน้าด้วยหากมี ดูทั้งสองด้าน บางเตนท์นิยมซื้อรถที่ชนหนักมาราคาถูกแล้วซ่อมโดยวิธีตีเคาะเหล็กชิ้นเดิมโดยไม่เปลี่ยนเหล็กชิ้นใหม่ หากทำมาไม่เนียนจริงเราพอจะสังเกตุหรือจับผิดได้ *การเลือกซื้อรถมือสองนั้น เหลี่ยมและสันของรถยนต์ เป็นจุดจับสังเกตุได้ดีทีเดียว เพราะมันต้องเหมือนกัน ตลอดแนว และ ซ้ายขวา* 4.ดูด้านในฝากระโปรงรถ ฝากระโปรงหน้า เมื่อคุณเปิดแล้ว ลองดู ตรงนี้ บริเวณ รูกลม ระหว่างเหล็ก 2 ชิ้นมันซ้อนเหลื่อมกันอย่างเห็นได้ชัดหรือเปล่า และ น็อตที่ใช้ไขระหว่าง บังโกลน กับ ส่วนเฟรมตังถัง มีรอยบิ่นเหมือนถูกไข หรือ หัวน็อตสีไม่เหมือนกัน แสดงถึงการแกะ แงะ เพื่อ ทำอะไรบางอย่างหรือเปล่า หรือบางครั้งเกิดชนขึ้นมาประกันชั้นหนึ่งอาจเปลี่ยนบังโคลนไปเลย ซึ่งก็ถือว่าดีกว่าซ่อม ดูไว้ก็ดีแต่อย่าไปใส่ใจมากนัก ดูบริเวณ วงกลมสีขาว

อยากให้ดูตรงขอบ สัน หรือ คาน หากคุณสามารถมองเห็นได้ ดูวงกลมที่วงไว้ในภาพ ว่าด้านซ้ายขวา นั้นสภาพเหมือนกันหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าด้านหนึ่งดูเหมือนทำสีใหม่ซะเงา อีกด้านสีด้านๆ (ซึ่งเป็นปกติ) หากเจอเช่นนี้ก็อาจเดาได้ว่า ชนแรงความแรงส่งผ่านจากบังโคลนมาถึงสันหรือขอบ กรณีนี้ถึงแม้จะเปลี่ยนบังโคลนมาใหม่แล้ว แต่ยังต้องดัดหรือซ่อม บริเวณขอบที่วงไว้นั้น ถ้ามีโอกาสเลือกได้ก็อย่าพึ่งเลือกรถคันนั้นเลย เมื่อเห็นดังนี้คุณอาจค่อยๆ ชิ่งไปดูคันอื่นดีกว่า สำหรับด้านหลังนั้น ไม่ว่าจะเป็นซีดานหรือแฮทซ์แบค เวลาเปิดฝากระโปรงหลัง หากแหวกหรือแงะดูใต้พรมหรือพลาสติกได้ ก็ลองทำดูหน่อยครับ หรือร่องเก็บยางอะไหล่นั้น ดูบุบบู้บี้ผิดรูปหรือเปล่า อันนี้คงไม่ยากเกินไปนะครับ ใจเย็นๆ โอกาสในการได้ used car ดีๆ ในราคาถูกกว่ากันเกือบ40% อาจเป็นของคุณ หากคุณ อ่าน วิธีเลือกรถมือสอง ทั้งสองโพสนี้อย่างละเอียด ต่อตอน2.......


Featured Posts
กรุณากลับมาใหม่ภายหลัง
หลังจากที่โพสต์เผยแพร่แล้ว คุณจะเห็นข้อมูลที่นี่
Recent Posts
Archive
Search By Tags
ยังไม่มีแท็ก
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page